Lost Soul Aside โลกแฟนตาซีสุดกว้างใหญ่และระบบต่อสู้สุดมัน

Lost Soul Aside โลกแฟนตาซีสุดกว้างใหญ่และระบบต่อสู้สุดมัน

รีวิว Lost Soul Aside: สิ้นสุดการรอคอยเกือบ 10 ปี! สัมผัสเกมแอ็คชั่น RPG ที่เร็วและงดงามดุจงานศิลป์

มีเกมไม่มากนักที่จะสร้างแรงสั่นสะเทือนและกลายเป็นที่จับตามองได้ตั้งแต่ยังเป็นเพียงโปรเจกต์ของนักพัฒนาเพียงคนเดียว และ Lost Soul Aside คือหนึ่งในปรากฏการณ์นั้นครับ นับตั้งแต่วันแรกที่วิดีโอตัวอย่างของเกมนี้ปรากฏขึ้นสู่สายตาชาวโลกในปี 2016 มันได้สร้างความหวังและความฝันให้กับเกมเมอร์สายแอ็คชั่นทั่วโลกในทันที ด้วยสไตล์การต่อสู้ที่รวดเร็ว, รุนแรง, และงดงามราวกับภาพยนตร์ จนเกิดเป็นคำถามที่อยู่ในใจของพวกเรามาตลอดเกือบทศวรรษว่า "เกมจะออกมาดีจริงหรือ?" และ "มันคุ้มค่ากับการรอคอยหรือไม่?" วันนี้ ในฐานะคนที่เฝ้าติดตามโปรเจกต์นี้มาตั้งแต่ต้น ผมขอบอกเลยว่าการรอคอยอันยาวนานได้สิ้นสุดลงแล้ว และคำตอบของผมคือ "ใช่, มันคุ้มค่าในทุกวินาที" นี่คือบทพิสูจน์ของแพสชั่นที่กลายเป็นจริง และเป็นเกมแอ็คชั่น RPG ที่แฟนพันธุ์แท้แนวนี้ต้องเล่นสถานเดียว

Kazer and his dragon companion Arena

ซิมโฟนีแห่งคมดาบและพลังงาน: ระบบการต่อสู้ที่คือจิตวิญญาณของเกม

หัวใจที่เต้นแรงและเป็นแกนหลักของ Lost Soul Aside คือระบบการต่อสู้ที่ต้องบอกว่า "เร็วเหนือชั้น" ครับ ใครที่ชื่นชอบเกมอย่าง Devil May Cry, Bayonetta หรือแม้กระทั่ง Final Fantasy XVI จะรู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน แต่ในขณะเดียวกันก็จะพบว่าเกมนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ตัวเอกของเรา Kazer ไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง เขามีคู่หูเป็นสิ่งมีชีวิตปริศนาที่อยู่ในรูปทรงของมังกรคริสตัลนามว่า Arena ซึ่งสิงสถิตอยู่กับเขา และนี่คือจุดที่ทำให้เกมเพลย์ทั้งหมดแตกต่าง

Arena ไม่ใช่แค่ผู้ช่วย แต่เป็นส่วนหนึ่งของคลังอาวุธของ Kazer โดยตรง เราสามารถสับเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีได้อย่างลื่นไหลไร้รอยต่อกลางอากาศ ดาบใหญ่ที่ฟาดฟันอย่างหนักหน่วงสามารถเปลี่ยนเป็นหอกที่พุ่งทะลวงอย่างรวดเร็ว หรือกรงเล็บคู่ที่กระหน่ำโจมตีเป็นพายุได้ในชั่วพริบตา การผสมผสานการโจมตีภาคพื้นดินเข้ากับการทำคอมโบกลางอากาศเป็นไปอย่างอิสระและสวยงามดุจการเต้นรำสังหาร ผมใช้เวลาหลายชั่วโมงใน Training Mode เพียงเพื่อจะลองผสมคอมโบรูปแบบต่างๆ และพบว่าความเป็นไปได้นั้นแทบจะไม่มีที่สิ้นสุด

Kazer unleashing a powerful aerial combo Fast-paced combat against multiple enemies

แต่มันไม่ใช่แค่การกดปุ่มมั่วๆ แล้วจะชนะนะครับ เกมเรียกร้องทักษะจากผู้เล่นในระดับสูง การหลบหลีก (Dodge) และการปัดป้อง (Parry) คือกุญแจสำคัญสู่ชัยชนะ การหลบในจังหวะที่สมบูรณ์แบบจะทำให้เวลาช้าลง เปิดโอกาสให้เราสวนกลับด้วยคอมโบชุดใหญ่ที่รุนแรง ความรู้สึกตอนที่ผมสามารถปัดป้องการโจมตีของบอสร่างยักษ์แล้วสวนกลับด้วยการโจมตีประสานกับ Arena จนเกราะแตกนั้น มันคือความสะใจที่หาได้ยากจากเกมอื่นจริงๆ ศัตรูในเกมนี้ก็ออกแบบมาได้ฉลาด พวกมันไม่ได้ยืนรอให้เราอัดอย่างเดียว แต่มีการโจมตีที่หลากหลายและบีบให้เราต้องเคลื่อนไหวตลอดเวลา ทำให้ทุกการต่อสู้คือความตื่นเต้นและท้าทาย

โลกที่แตกสลายและเรื่องราวการเดินทาง: การค้นหาตัวตนท่ามกลางสงคราม

เบื้องหลังฉากแอ็คชั่นที่ดุเดือด คือโลกแฟนตาซีที่ผสมผสานกลิ่นอายของเทคโนโลยีล้ำยุคเอาไว้ได้อย่างลงตัว งานภาพที่รังสรรค์ด้วย Unreal Engine ทำให้ฉากต่างๆ มีความสวยงามและน่าค้นหา ตั้งแต่เมืองลอยฟ้าที่ดูโอ่อ่าไปจนถึงซากปรักหักพังของอารยธรรมโบราณที่เต็มไปด้วยปริศนา การออกแบบตัวละครก็ทำได้อย่างมีเสน่ห์ โดยเฉพาะตัวเอกอย่าง Kazer ที่ดูเท่และลึกลับ และ Arena ที่ดูงดงามและน่าเกรงขามในเวลาเดียวกัน

Kazer exploring a stunning fantasy environment

เนื้อเรื่องของเกมจะเล่าถึง Kazer หัวหน้าหน่วยอัศวินที่เข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์ประหลาด จนได้พบและรวมร่างกับ Arena โดยบังเอิญ ทำให้เขากลายเป็นที่ต้องการตัวของหลายฝ่าย การเดินทางของเขาจึงเป็นการหลบหนีและค้นหาความจริงไปพร้อมๆ กัน ว่า Arena คือใคร? สัตว์ประหลาดที่ปรากฏตัวขึ้นมาทั่วดินแดนมาจากไหน? และเบื้องหลังสงครามครั้งเก่ามีอะไรซ่อนอยู่? แม้ว่าพล็อตเรื่องอาจจะไม่ได้ซับซ้อนแหวกแนวมากนัก แต่สิ่งที่ผมชอบคือการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่าง Kazer และ Arena จากตอนแรกที่เป็นเพียงความสัมพันธ์เชิงจำใจ ก็ค่อยๆ พัฒนากลายเป็นมิตรภาพและความเชื่อใจ ซึ่งถูกถ่ายทอดออกมาผ่านบทสนทนาและคัตซีนต่างๆ ได้อย่างน่าติดตาม

A cinematic moment between Kazer and an important character An epic battle against a colossal boss

การเติบโตและการเผชิญหน้า: ระบบ RPG และศึกบอสไฟต์สุดอลังการ

ในฐานะเกม Action RPG แน่นอนว่าต้องมีระบบการพัฒนาตัวละคร ซึ่ง Lost Soul Aside ก็ทำออกมาได้ดีและเข้าใจง่ายครับ ทุกครั้งที่เลเวลอัพ เราจะได้แต้มมาอัปเกรดใน Skill Tree ซึ่งจะปลดล็อคท่าคอมโบใหม่ๆ หรือเพิ่มความสามารถให้กับท่าเดิมๆ การได้เห็น Kazer ค่อยๆ เก่งขึ้นและมีท่วงท่าการต่อสู้ที่หลากหลายมากขึ้นเรื่อยๆ คือสิ่งที่ทำให้การเล่นไม่รู้สึกจำเจ นอกจากนี้เรายังสามารถติดตั้ง Crystal เพื่อเสริมความสามารถพิเศษต่างๆ ได้อีกด้วย

และสิ่งที่ผมอยากจะพูดถึงเป็นพิเศษคือ "บอสไฟต์" ของเกมนี้ครับ ทุกการต่อสู้กับบอสคือบททดสอบที่แท้จริง มันไม่ใช่แค่การสู้กับศัตรูที่เลือดเยอะขึ้น แต่บอสแต่ละตัวมีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ มีเฟสการต่อสู้ที่หลากหลาย และมีแมคคานิคที่ต้องเรียนรู้เพื่อที่จะเอาชนะ การต่อสู้กับอสูรยักษ์ที่โจมตีเป็นวงกว้าง, การดวลดาบกับนักรบความเร็วสูง, หรือการสู้กับมังกรที่บินโฉบไปมาบนฟ้า ทุกฉากคือความอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจและท้าทายฝีมืออย่างถึงที่สุด การเอาชนะบอสได้แต่ละตัวมันให้ความรู้สึกถึงความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่จริงๆ

Kazer facing off against a formidable foe Unleashing a devastating special attack with Arena

บทสรุป: เพชรเม็ดงามที่ผ่านการเจียระไนอย่างยาวนาน

การเดินทางของผมกับ Kazer และ Arena ตั้งแต่ต้นจนจบคือประสบการณ์ที่น่าประทับใจและยากจะลืมเลือน Lost Soul Aside ไม่ใช่แค่เกมอินดี้ธรรมดาๆ แต่มันคือเกมระดับ AAA ที่สร้างขึ้นจากแพสชั่นอันแรงกล้า แม้ว่าอาจจะมีจุดเล็กๆ น้อยๆ ที่ขัดใจบ้าง เช่น ภารกิจเสริมบางอย่างที่อาจจะดูซ้ำไปนิด หรือเนื้อเรื่องที่อาจจะคาดเดาได้ไปบ้างในบางช่วง แต่สิ่งเหล่านั้นก็ถูกกลบไปจนหมดสิ้นด้วยระบบการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมไร้ที่ติและงานภาพที่งดงามจับใจ

ท้ายที่สุดแล้ว Lost Soul Aside คือคำตอบที่ชัดเจนว่าการรอคอยอันยาวนานนั้นไม่ได้สูญเปล่า มันคือเกมแอ็คชั่นที่ทุกการกดปุ่มคือความสะใจ ทุกการหลบหลีกคือความตื่นเต้น และทุกชัยชนะคือความภาคภูมิใจ หากคุณคือแฟนเกมแอ็คชั่นที่โหยหาความเร็ว, ความท้าทาย และสไตล์ที่จัดจ้าน นี่คือเกมที่คุณต้องเล่นโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ทั้งสิ้น มันคือเพชรที่ผ่านการเจียระไนมาเกือบทศวรรษ และวันนี้มันส่องประกายเจิดจ้าสมกับการรอคอยแล้วจริงๆ ครับ

Kazer in a heroic pose, ready for the next challenge

สั่งซื้อเกม Lost Soul Aside ที่นี่

0 ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็นในบทความนี้ มาเป็นคนแรกที่แสดงความคิดเห็นกันเถอะ!

แสดงความคิดเห็นของคุณ